เขียนโดย นายตัวดี ท.ทิวเทือกเขา วันอังคารที่ 29 กันยายน 2009 เวลา 09:02
รถสลัดตัวจากสี่แยกรถติดสุดท้าย ก็เพิ่มความเร็ว แล่นหนีออกจากความมืดของเมืองกรุง ขณะที่ฟ้าเริ่มเรืองเรื่อขึ้นด้วยแสงแรกของวัน
แล้วฝนก็โปรยลงมา
สอง ชั่วโมงถัดมา สองข้างทางปูลาดด้วยท้องนาเจิ่งน้ำ สายฝนโปรยปรายไม่หยุด แต่ไม่อาจหยุดนกยางหลายสิบตัวไม่ให้โผบินหากินตามท้องทุ่ง เช้าฝนปรอยเช่นนี้ยังเห็นชาวทุ่งบางคนกำลังทำนา บางคนตกปลา เป็นภาพที่คนเมืองหลวงที่นิยมผ่านเวลาในห้างติดแอร์ไม่มีโอกาสสัมผัสเห็น
ระยะ ทางสองชั่วโมงจากเมืองหลวง ไม่ต่างกันนักจากเมื่อเทียบกับการหันทิศไปยังเมืองชายทะเลที่หาดทรายคลาคล่ำ ด้วยบาร์เบียร์ แต่ยากที่จะได้สัมผัสชีวิตไม่เร่งร้อนแบบชนบท
ผมกำลังเดินทางไปงานอุปสมบทในชนบท
เสียง ของขบวนแห่ดังมาก่อน แล้วขบวนแห่นาคก็เคลื่อนไหลไปตามถนนสายเล็ก ทั้งคนหนุ่มสาวและคนแก่ฟ้อนรำไปตลอดทางกลางสายฝนปรอย รอยยิ้ม เสียงหัวเราะลอยแทรกเสียงกลอง ฉิ่ง ฉับ
นาคหนุ่มสวมชุดขาว โกนหัวเลี่ยน ถือพานดอกไม้ เดินทางไปตามทางสายหนึ่งที่ผู้คนหนุ่มสาวยุคบริโภคนิยมมักหลีกหนี
หลัง จากวนรอบอุโบสถสามรอบ นาคหนุ่มโยนเหรียญเงินขวัญถุงและดอกไม้ขึ้นกระจายเต็มฟ้า เด็กและผู้ใหญ่ต่างยื่นมือออกรับโดยพร้อมกัน เสียงหัวเราะลอยในอากาศ แน่นอนเด็กๆ คงไม่กรูไปเก็บเหรียญเพื่อเอาไว้เป็นสิริมงคล แต่มันก็ทำให้บรรยากาศการบวชครึกครื้นขึ้น
แล้วนาคก็เดินเข้าอุโบสถเพื่อลอกคราบชีวิตครั้งแรก
ผู้ดูแลการบวชเอ่ยบอกนาคว่า “พ่อแม่เลี้ยงดูเรามานานจนเติบใหญ่ การบวชนี้ถือเป็นการตอบแทนคุณเล็กๆ ต่อท่าน กราบเท้าพ่อแม่เสีย”
นาคหนุ่มกราบเท้าพ่อแม่สามจบ ผมพอเข้าใจความรู้สึกของพ่อแม่คู่นี้ได้
ใน ยุคที่หาความกตัญญูรู้คุณยากเย็นขึ้น หลายคนไม่เคยแม้ไปเยี่ยมเยียนผู้บังเกิดเกล้า มิพักเอ่ยถึงการบวชที่ดูล้าสมัยและไม่เหมาะกับกระแสชีวิตที่เร่งรีบ หาเงินให้ได้มากที่สุด เร็วที่สุด ธรรมะเป็นสิ่งสุดท้ายที่ต้องการ ภาพนาคกราบพ่อแม่ยิ่งเป็นภาพที่หาดูยาก
กระแสทุนนิยมที่หลายฝ่าย ช่วยกันเร่งเร้า ทำให้เราหนีจากรากเหง้าแห่ง ‘เศรษฐกิจพอเพียง’ และชีวิตสันโดษ ไปสู่อ้อมกอดของอุปสงค์อุปทานปลอมๆ
คนหนุ่มหลายคน เห็นว่าการบวชเพียงไม่กี่วันเพื่อพ่อแม่ไหนเลยจะสู้ให้เงินแก่ผู้บังเกิด เกล้า แต่สำหรับพ่อแม่หลายคน การบวชเป็นประตูสู่ความเป็นผู้ใหญ่ที่มีรับผิดชอบ รู้จักแยกแยะทางสว่างออกจากทางมืด นี่ต่างหากที่เป็นความสุขของพ่อแม่
หลังจากพระอุปัชฌาย์ชราเอ่ยสั่งสอนนาคหนุ่ม และบทสวดหลายจบ นาคก็กลายร่างจากชุดขาวไปครองจีจรสีอำพัน
นี่เป็นคุณค่าเล็กๆ ที่ยังเหลืออยู่ในสังคมบ้านเรา หากเรายังรู้ว่ามันมีเหลืออยู่…
ผมกลับกรุงเทพฯ กลางสายฝนปรอย อากาศเย็นชื้น
เริ่มแลเห็นตึกระฟ้าและป้ายโฆษณาสองข้างทาง แต่ใจฉ่ำเย็นกว่าเมื่อเที่ยวไป…
5 พฤศจิกายน 2548
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเว็ปไซต์ www.kasetsomboon.org |
ข้อตกลงก่อนชมเว็ปไซต์ |
บทความบันทึกการเดินทางของเว็ปมาสเตอร์ นายตัวดี ท.ทิวเทือกเขา คลิ๊กอ่านได้เลยครับ มีทั้งหมดตอนนี้ 14 ตอน |