จากเรื่องราวของคนบนเน็ต
ผมกินข้าวพร้อมหน้ากับครอบครัว เป็นครอบครัวที่ใหญ่พอใช้ ผมเป็นเด็กที่สุดในบ้านมีปู่ย่าป้าอาญาติเยอะแยะ ที่สำคัญ พ่อของผม โต๊ะกินข้าวตัวนั้น ผมยังจำได้ดี ถึงรูปทรงสี่เหลี่ยมที่ดูเทอะทะของมัน มันใหญ่และ เลวร้ายมาก สำหรับผม “เพล้ง ……” เสียงนี้สะท้อนไปถึง หัวใจ ของผม “หนูไม่ได้ตั้งใจ” คำพูดนี้หลุดออกมาจากปากแบบอัตโนมัติ ทุกคนพร้อมจะให้อภัยเสมอ กะอีแค่ เด็กอายุ 7 ขวบ ทำจานแตกไปหนึ่งใบ ไม่เป็นไรหรอก ผมยิ้มออกที่ทุกคนพูดออกมาแบบนี้ แต่ผมลืมไปหนึ่งคน “เก็บเศษจานให้หมด แล้วไม่ต้องกินข้าว จนกว่าพ่อจะอนุญาติ” เสียงประกาศิต และเฉียบขาดเสมอ นี่คือ คำสั่งที่ผมต้องฟัง และปฏิบัติตาม “ทุกครั้ง” …
ผมทำตามที่พ่อผมสั่งอย่างรวดเร็วเท่าที่เด็กในวัย 7 ขวบ อย่างผมจะทำได้ นั่นคือ สิ่งที่ผมกลัวที่สุดในชีวิต เสียงที่ดัง และกร้าวของพ่อคือ สิ่งที่บั่นทอน สุขภาพจิต ของผม ให้หวาดผวาที่ครั้งที่พ่อ เอ่ยเสียงหรือแม้แต่กระทั่ง ไอ …. นั่นคือ จุดเริ่มต้นของความว่า “เกลียด” ผมไม่รู้ตัวว่า เกลียดพ่อตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ที่รู้ๆ คือ ชายคนนี้ คือ คนที่ทำให้ผมหวาดผวาได้ตลอดเวลา …….
พ่อ คือ ชายคนเดียวที่ใช้กำลังกับผม
พ่อ คือ ชายคนเดียวที่ขู่ ตวาด และ ตะคอกผม
พ่อ คือ ชายคนเดียวที่พร้อมจะทำทุกอย่างได้ เมื่อเห็นผมทำผิด
เกลียดพ่อ .. คำนี้ผมท่องขึ้นใจ มาตั้งแต่ผมจำความได้ ผมไม่เคยมีปัญหาอะไรเลยซักครั้งที่ไปปรึกษาพ่อ แม้กระทั่งเรื่องเรียนต่อ ผมตัดสินใจเองทั้งหมด จนกระทั่ง วันที่ผมได้เปลี่ยนแปลงความคิดว่า ผู้ชายที่เป็นพ่อของผม คือ ผู้ชายที่รักผมมากที่สุดในโลกได้มาถึง แต่มันก็สายเกินกว่าที่ผมจะแก้ไข หรือเกินกว่าที่ผมจะเอ่ย คำว่า รัก ออกมาให้พ่อผม ได้ยิน พ่อผมเสียชีวิตไปก่อน อาจจะเป็นการเสียชีวิต ของพ่อก็ได้ที่ทำให้ผมเปลี่ยนทัศนคติต่อพ่อ พ่อผมเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวในบรรดาพี่น้องสี่คน สมัยเด็กๆย่าผมบอกว่า ที่บ้านฐานะไม่ค่อยดี พ่อผมเป็นแรงงานที่ช่วยเหลือ ตั้งแต่เด็กนิสัยจริงจังและอารมณ์ร้อน พ่อผมจากไปด้วยโรคลมปัจจุบัน วินาทีแรกที่ผมรู้ว่าพ่อผมเสีย คือ เฉย ต่อเหตุการณ์ ผมสงบ จวบจนผมเห็นร่างกายอันเย็นเฉียบปราศจากวิญญาณของพ่อ ความทรงจำในอดีตก็ค่อย ๆ ย้อนกลับมา …….
“เอ้า … พ่อซื้อมาแล้ว รถไฟรางที่อยากได้”
“เก่ง .. นี่หว่า ได้ตั้งที่ 8 เลขตัวเดียวซะด้วย”
“เอาน่า ไว้พ่อจะซื้อให้ใหม่ หมาตายไปเพราะมันแก่ตาย อย่าร้องไห้ ลูกผู้ชายเค้าไม่เสียน้ำตากับเรื่องแค่นี้หรอก”
“แกอยากไปเที่ยวกับเพื่อน มีเงินหรือยัง”
“ปิดเทอม อยากไปไหนว๊ะ เดียวไปกับพ่อ”
ฯลฯ ………… อาจจะเป็นเพราะผมมีอคติกับพ่อ .. สิ่งเหล่านี้เลยไม่เคยอยู่ในสายตา และ ความรู้สึกของผม อาจเป็นเพราะ พ่อผมเป็นคนที่เข้มแข็ง พ่อผมส้ชีวิต มาตั้งแต่เล็ก การแสดงความรู้สึก เลยอาจจะแข็ง หรือ พ่ออาจจะทำให้ผมเห็นว่า คนที่เป็นผู้ชาย มันต้องจริงจังกับชีวิตเสมอ ผมคิดได้แค่นี้ ความคิดทั้งหมด ก็หยุดโดยฉับพลัน น้ำตาของผมที่ไม่เคยไหล แม้แต่จะถูกพ่อตี ก็ไหลออกมา ความดีของพ่อ กลับเข้ามาสู่ความทรงจำของผมทุก ๆ อย่าง อาจจะเป็นเพราะว่า เราไม่เคยเห็นคุณค่าของสิ่งที่เรามีอยู่ ตราบจนกระทั่งเราเสียมันไปเหมือนอย่างที่ เคยมีคนพูดไว้ก็ได้ …….สามปีแล้วที่ผมสูญเสียผู้ชายที่รักผมมากที่สุด ทุกๆ ครั้งที่ผมนึกถึงเค้า