อาวุธชีวิภาพจุลินทรีย์แก้ไขล่าสุด ใน วันพุธที่ 07 พฤศจิกายน 2012 เวลา 00:34 เขียนโดย นายตัวดี ท.ทิวเทือกเขา วันพุธที่ 06 กรกฏาคม 2011 เวลา 15:13
เมื่อโรคระบาด สามารถทำลายชีวิตผู้คนได้เป็นจำนวนมาก มนุษย์ชาติชั่วไร้ปราณีบางพวก จึงได้คิดเลียนแบบธรรมชาติ โดยการเพาะเชื้อโรคบางชนิดไว้ใช้ เพื่อการสงคราม โดยอาจจะใช้จุลินทรีย์เอง หรืออาจะสกัด เอาเฉพาะสารตัวใดตัวหนึ่งที่สำคัญ และมีฤทธิ์พอที่ทำให้เจ็บป่วยถึงแก่ความตายได้ หรือเป็นพิษต่อมนุษย์ การใช้อาวุธชีวภาพเกิดขึ้นครั้งแรกในอาณาจักรโรมัน โดยการนำสัตว์ที่ป่วยเป็นโรคตายไปทิ้งไว้ในแหล่งน้ำของข้าศึก เมื่อข้าศึกใช้น้ำก็จะเกิดการเจ็บป่วย เป็นการตัดกำลังรบและทำลายขวัญได้เป็นอย่างดี นั่นย่อมแสดงให้เห็นว่า มนุษย์เรารู้จักใช้อาวุธชนิดนี้กันมานานนับพันปีแล้ว ไม่ใช่ของใหม่เลย จนปัจจุบันนี้ ก็ยังมีการคิดค้นกันไม่สิ้นสุด นั่นเพราะมนุษย์หน้าโง่ทั้งหลายยังคงฆ่ากันไม่เสร็จนั่นเอง อาวุธชีวภาพในปัจจุบันยังคงไว้ซึ่งหลักการเดิมๆ แต่ได้พัฒนาหาวิธีการใช้ที่แตกต่างออกไปจากอดีต คือสามารถใช้ได้สะดวกขึ้น ได้ผลมากขึ้น คือฆ่ากันได้มากขึ้นนั่นเอง มีการเพาะเลี้ยงเชื้อโรคต่างๆเป็นจำนวนมาก และสามารถที่จะเก็บรักษาไว้ได้จนกว่าจะถึงเวลาที่ต้องการใช้ ซึ่งอาจจะใช้วิธีโปรยลงมาจากเครื่องบิน หรือติดไปกับหัวรบขีปนาวุธยิงสู่เป้าหมาย ดังที่ได้กล่าวไว้ในตอนต้น ว่า การผลิตอาวุธชีวภาพนั้นทำได้ไม่ยากเลย ไม่ต้องใช้เทคโนโลยีชั้นสูง ต้นทุนก็ไม่แพง ประเทศที่ยากจนสามารถผลิตได้เอง อาวุธชนิดนี้จึงเป็นขวัญใจคนยาก และที่ผ่านมาเคยมีการตรวจพบแหล่งอาวุธชีวภาพในอิรัก เมื่อปี ค.ศ. 1985 มีทั้งอาวุธเชื้อโรค และสารพิษที่ได้จากเชื้อโรค เช่น เชื้อแอนแทรกซ์ ซึ่งเป็นแบคมีเรียชนิดหนึ่ง พิษบอตทูลินัม ที่เป็นสารพิษที่ได้จากแบคทีเรีย พิษอะฟลาทอกซิน สารพิษที่ได้จากเชื้อรา และไรซิน สารพิษที่สกัดมาจากเม็ดละหุ่ง ครั้งนั้นเองที่ทำให้โลกต้องตื่นตะหนกและหันกลับมาสนใจ และคิดหาทางป้องกันในเจ้าอาวุธชีวภาพ ที่ค้นคิดโดยมนุษย์ และเป้าหมายคือสังหารมนุษย์ด้วยกัน มันก็แค่การค้นคิดที่จะหาวิธีฆ่ากันให้ได้คราวละมากๆ เพื่อช่วงชิงการได้เปรียบ เท่านั้นเอง เชื้อโรคแอนแทรกซ์ (anthrax) นับว่าเป็นเชื้อ ที่เหมาะแก่การนำมาใช้เป็นอาวุธชีวภาพมากที่สุด เพราะจะทำให้เกิดโรคระบาดรุนแรง และมีศักยภาพสูงในการสังหารมนุษย์ยิ่งนัก โรคแอนแทรกซ์ เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า แบซิลลัส แอนทราซิล ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียประเภทแกรมบวก (เป็นวิธีการทางห้องทดลอง ที่ใช้ในการจำแนกประเภทแบคทีเรียโดยการย้อมสี) แบคทีเรียชนิดนี้มีการสืบพันธุ์โดยการสร้างสปอร์ส สปอร์สของมันเปรียบได้กับละอองเรณูของเกสรดอกไม้ สามารถล่องลอยไปในอากาศได้ แต่มีขนาดเล็กกว่ามาก เล็กจนมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แลัเมื่อตกเข้าไปในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม สปอร์สนี้ก็จะเจริญเป็นแบคทีเรีย และเกิดการแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว ทั้งยังมีการสร้างเกราะหุ้มอีกชั้นหนึ่งด้วย มันจึงได้ทนทานในทุกสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี โรคแอนแทรกซ์มีระยะ ฟักตัวสั้น คือราว 1-5 วัน โดยทั่วไปมักจะแค่ 2 วัน จึงแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว ผู้ที่เบื่อโลกและต้องการรับเชื้อนี้ สามารถรับได้ 2 ทางคือ ทางสปอร์สของเชื้อแอนแทรกซ์ ซึ่งลอยอยู่ในอากาศหรือตกอยู่ตามพื้นดิน เข้าสู่ร่างกายทางบาดแผล ทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบเลือด ส่วนอีกวิธีหนึ่งคือ หายใจเอาสปอร์สเข้าไป ทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้ เลือกเอานะครับ…. โรคแอนแทรกซ์ ที่ติดเชื้อทางบาดแผลจะมีอัตราการตายราว 20 เปอร์เซนต์ หากติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจอัตราการตายจะอยู่ที่ ร้อยละ 80 เพื่อให้เข้าใจง่ายเข้าคือ ผู้ป่วย 100 คน จะรอด 20 คน พิษบอตทูลินัม (botulinnum) เป็นสารพิษจากจุลินทรีย์ ที่มีความเป็นพิษสูงมาก เหมาะแก่มานำมาใช้คร่าชีวิตมนุษย์ยิ่งนัก พิษชนิดนี้เกิดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสทริเดียม บอตทูลินัม อันเป็นแบคทีเรียที่ทำให้อาหารกระป๋องเน่าเสีย และอาหารเป็นพิษ คงจะแบบว่าทานอาหารกระป๋องที่หมดอายุประมาณนั้น แต่นั่นเป็นพิษในธรรมชาติที่เจือจาง แต่เจ้าพิษที่ถูกผลิตขึ้นมาใช้เป็นอาวุธชีวภาพนั้น มีความเข้าข้นกว่า ว่ากันว่าพิษนี้เพียงแค่จุดเล็กๆก็สามารถคร่าชีวิตคนตั้ง 10 กว่าคนทีเดียว คลอสทริเดียมเพอร์ฟริงเกนส์ ( clostridium perfringens) เป็น แบคทีเรียสายพันธ์เดียวกับ คลอสทริเดียม บอตทูลินัม โดยเจ้า คลอสทริเดียมเพอร์ฟริงเกนส์ นี้เป็นแบคทีเรียที่ทำให้อาหารกระเป๋าเน่าเสีย และเกิดอาหารเป็นพิษ และถ้าหากว่าเจ้าแบคทีเรียชนิดนี้มันลอง ได้เข้าไปอาศัยอยู่ในบาดแผลของมนุษย์ที่สกปรก และอากาศเข้าไม่ถึงได้แล้วละก็…. พิษของมันจะทำงานทันที โดยจะทำให้เกิดก๊าซในบาดแผล ทำให้แผลบวม และเนื้อเน่าตาย (น่าทรมานจริงๆ) การรักษานั้น แพทย์อาจจะต้องตัดอวัยวะส่วนนั้นทิ้งเพิ่อป้องกัน ไม่ให้พิษแพร่กระจายเข้าไปในระบบโลหิต ซึ่งนั่นจะทำให้มนุษย์ผู้ที่ได้รับสารพิษชนิดนี้เน่าตายได้ ขอบอก… อะฟลาทอกซิน (aflatoxin) เป็นสารพิษที่ผลิตจากเชื้อรา ที่ใช้นามสกุลว่าแอสเพอร์จิลลัส อย่างเช่น แอสเพอร์จิลลัส เฟสวัส (aspergillus Flavus) เชื้อราชนิดนี้มีอยู่ในธรรมชาติ ชอบขึ้นอยู่ตามสินค้าเกษตรที่มีการเก็บรักษาไม่ดี และมีความชื้นเจือปนสูง อันได้แก่ ข้าวโพด ถั่ว และอื่นๆอีก ทั้งยังขึ้นได้ดีในถั่ว พริกป่นที่ใส่ในอาหาร อะฟลาทอกซิน เป็นสารก่อมะเร็ง ทำให้เกิดมะเร็งในตับได้ ไรซิน (ricin) เป็นสารพิษที่สกัดมาจากเม็ดละหุ่ง ใช้เป็นยาปราบศัตรูพืช โดยไรซินจะไปยับยั้งการผลิตโปรตีนของเซลล์ ซึ่งเป็นกระบวนการพื้นฐานของร่างกาย ผู้ที่ได้รับสารพิษชนิดนี้แม้จะไม่ใช่ศัตรูพืช ก็จะเสียชีวิต เนื่องจากร่างกายไม่สามารถผลิตโปรตีนที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ยังไม่มีวิธีรักษา แต่ป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีน สร้างภูมิคุ้มกันพิษของไรซิน ซึ่งจะต้องมีการเตรียมการล่วงหน้า |
|
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเว็ปไซต์ www.kasetsomboon.org |
ข้อตกลงก่อนชมเว็ปไซต์ |
บทความบันทึกการเดินทางของเว็ปมาสเตอร์ นายตัวดี ท.ทิวเทือกเขา คลิ๊กอ่านได้เลยครับ มีทั้งหมดตอนนี้ 14 ตอน |