ชีวิตวันนี้มาจากความหวังเมื่อวานแก้ไขล่าสุด ใน วันพุธที่ 07 พฤศจิกายน 2012 เวลา 00:40 เขียนโดย นายตัวดี ท.ทิวเทือกเขา วันศุกร์ที่ 07 สิงหาคม 2009 เวลา 13:54 โดย…อ้ายหนานปั๊กกะตืน
”เมื่อ ครั้งบวชเณรอยู่ที่วัดประจำหมู่บ้าน และเข้าเรียนในโรงเรียนพระปริยัติธรรมสายสามัญ ที่เปิดสอนสำหรับพระภิกษุสามเณรในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งขณะนั้นผมกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และต้องไปเรียนทุกวัน เว้นวันพระ กับวันอาทิตย์ จู่ๆ คุณตาก็เรียกผมไปคุยถึงเรื่องการศึกษาเล่าเรียน คุณตาคงเฝ้าสังเกตผมมานานแล้ว และเห็นความขยันบวกสมองดีของผม ท่านได้พูดชมความเก่งเรียนของผม และพูดถึงวิถีความทุกข์ยากของลูกสาวของท่าน ก็คือคุณแม่ของผม ที่ต้องทำงานรับจ้างเขากินไปวันๆ เพราะไม่มีที่นาที่ทำกินเป็นของตัวเองเลย อีกทั้งสามีของเธอก็มาละทิ้งไปมีครอบครัวใหม่ตั้งแต่ผมยังจำความไม่ได้ มองไปข้างหน้าไม่เห็นหนทางได้หยุดพักหยุดนอนเหมือนคนอื่นที่ลูกหลานเขาเรียน จบปริญญาหาเลี้ยง ส่งเงินส่งทองมาให้ใช้จ่าย และไม่ปรารถนาให้พ่อแม่ต้องกรำงานหนักไปตลอด ซึ่งผมเองก็ได้แต่พยักหน้าเป็นทีรับรู้ เพราะก็สัมผัสได้อยู่ ประโยคหนึ่งของคุณตาที่เบนให้ผมในวัยเพียง 14 ปี ตัดสินใจละการเรียนสายสามัญ หลังเรียนจบแค่มัธยมศึกษาปีที่ 1 ไปศึกษาพระปริยัติธรรมสายบาลี และต้องระเห็จจากบ้านเกิดสู่ตัวเมือง คือ “เรียนบาลีน่ะ ไม่ต้องมีค่าเทอม แถมจบมาได้เป็นมหาเปรียญอีก ใครที่เป็นมหาจะมีคนเชิดหน้าชูตา เงินเดือนเป็นหมื่นเชียว” สังเกตเห็นอะไรไหมครับ? วันนี้ผมจึงไม่เคยอายที่สามารถแสวงหา “เงิน” มาเลี้ยงชีพได้ เพราะทุ่มเทเวลาศึกษาเรียนรู้วิชาการทั้งทางโลก และทางธรรม โดยอาศัยร่มกาสาวพัสตร์ห่มกายยาวนานถึง 13 พรรษา กระทั่งลาสิกขาเมื่ออายุได้ 26 ปี
|
||||
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเว็ปไซต์ www.kasetsomboon.org |
ข้อตกลงก่อนชมเว็ปไซต์ |
บทความบันทึกการเดินทางของเว็ปมาสเตอร์ นายตัวดี ท.ทิวเทือกเขา คลิ๊กอ่านได้เลยครับ มีทั้งหมดตอนนี้ 14 ตอน |