นางในฝัน
เขียนโดย นายตัวดี ท.ทิวเทือกเขา วันอังคารที่ 29 กันยายน 2009 เวลา 08:39
2 มงฺสกลฺยาณํ เนื้องาม คือ หญิงผู้มีริมฝีปากแดงดุจผลตำลึงสุกและเรียบชิดสนิทกันดี
3 อฏฐิกลฺยาณํ กระดูกงาม คือ หญิงผู้มีฟันสีขาวประดุจสังข์ และเรียบเสมอกัน
4 ฉวิกลฺยาณํ ผิวงาม คือ หญิงผู้มีผิวกายงามละเอียดสวยงาม
5 วยกลฺยาณํ วัยงาม คือ หญิงผู้ที่แม้จะคลอดบุตรกี่ครั้ง ก็ยังคงเต่งตึงไม่หย่อนยาน
อืม! ไม่ขอมากเลยนะ
สังเกตว่าทั้งห้าข้อเป็นคุณสมบัติทางกายภาพทั้งสิ้น
ตำนาน เล่าต่อไปว่า ฝ่ายพ่อแม่ก็ไม่ย่อท้อ ส่งพราหมณ์ไปเป็นแมวมองค้นหาหญิงสาวตามสเป็คฯนี้จนพบเข้าคนหนึ่งในเมืองสาเก ต ชื่อนางวิสาขา ยามนั้นนางวิสาขาพร้อมทั้งหญิงบริวารออกมาเที่ยวเล่นกัน ฝนเทลงมาอย่างหนัก หญิงบริวารทั้งหลายพากันวิ่งหลบหนีฝนเข้าไปในศาลา แต่นางวิสาขายังคงเดินด้วยฝีเท้าปกติ พราหมณ์แมวมองรู้สึกแปลกใจยิ่ง ถามนางว่า “ทำไมเธอจึงไม่วิ่งหลบหนีฝนเหมือนกับหญิงอื่นๆ ?”
คำตอบ ของนางคือ เป็นหญิงสาววิ่งแล้วดูไม่งาม หากหกล้มอาจเสียโฉมพิการ หมดคุณค่าไป (ความจริงนางตอบยาวกว่านี้มาก) แสดงว่านางวิสาขาไม่เพียงแต่สวย ยังฉลาดด้วย นับว่าเป็นความโชคดีของปุณณวัฒนกุมารที่นางวิสาขามิได้กำหนดสเป็คฯ ‘เบญจบุรุษ’ ด้วย ก่อนส่งตัว บิดาของนางวิสาขาเรียกนางไปให้โอวาทสิบประการ
เชื่อ แน่ว่าตัวละครในภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ในสมัยหนึ่งที่ว่าด้วยการต่อสู้ ระหว่างแม่ผัว-ลูกสะใภ้คงไม่เคยปฏิบัติตามโอวาทสิบประการนี้ แม่ผัวกับลูกสะใภ้จึงทะเลาะกันในละครมานานหลายสิบปี
หลายคนในสมัยนี้ คงบอกว่า โอวาทสิบประการนี้เข้าข่ายละเมิดสิทธิสตรีอย่างยิ่ง เป็นการอบรมสร้าง ‘ช้างเท้าหลัง’ อย่างแท้จริง พูดสั้นๆ คือบทบาทของหญิงเป็นเพียงทาสรับใช้ชายเท่านั้น
ทว่าเราคงใช้ข้อแม้ ทางสังคมในยุคอินเทอร์เน็ตเป็นมาตรวัดพฤติกรรมคนในสมัยสองพันห้าร้อยปีก่อน ไม่ได้ คำถามที่น่าสนใจมากกว่าคือ มาถึงพ.ศ.นี้ มีข้อใดในโอวาทสิบประการนี้ที่ยังใช้ได้ หรือว่าล้าสมัยไปหมดแล้ว?
ดู เหมือนเหลืออยู่ไม่กี่ข้อที่ว่าด้วยการไม่เป็นคนขี้นินทาและมีเมตตา ส่วนการบริโภคอาหารหลังสามีและพ่อผัว แม่ผัว ออกจะเป็นเรื่องที่ไม่ส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวอย่างไรพิกล
สังคม ปัจจุบันต้องการ ‘โอวาทสิบประการ’ เสมอ แต่มันเปลี่ยนไปตามปัจจัยต่างๆ ในสภาพสังคมที่เงินทองหายาก ภรรยาจำนวนมากต้องออกหาเงินนอกบ้านอีกแรงหนึ่งด้วย กระนั้นสามีหลายคนยังคาดหวัง (ด้วยความโลภ) ว่า บทบาทของ เบญจกัลยานี ต้องไม่ลดลง พูดง่ายๆ ว่า หญิงสาวนอกจากต้องทำงานนอกบ้านหาเงินมาช่วยด้านการเงินแล้ว ยังต้องดูแลเรื่องการกินอยู่ ซักผ้า ล้างจานด้วย จึงจะเป็นยอดภรรยา
ผ่าน มาหลายพันปี สเป็คฯของผู้ชายเราไม่เคยเปลี่ยนเลยคือ เอาแต่ได้จริงๆ ! อาจจะจริงอย่างที่คนโบราณว่า เกิดเป็นหญิงแท้จริงแสนลำบาก เพราะโลกนี้ยังเป็น ปิตาธิปไตย จริงๆ ชายยังคาดหวังว่าหญิงต้องเป็นคนดูแลตน ส่วนหญิงจำนวนไม่น้อยก็ยังตกอยู่ในกับดักของความเชื่อที่ว่า ต้องเอาใจชาย มิเช่นนั้นเขาอาจเปลี่ยนใจ
การเอาใจส่วนหนึ่งก็คือการรักษาสภาพร่าง กายของตนเองให้มีเสน่ห์ยวนใจเสมอๆ เราก็จึงยังเป็นสังคมที่เต็มไปด้วยยาลดความอ้วน การดูดไขมัน เพื่อเอาใจชาย ด้วยความเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้มัดใจชายได้ แต่หาก ‘คุณค่า’ เหล่านี้เป็นตัวมัดชายจริง หญิงสาวเหล่านั้นจงระวังด้วยว่า วันหนึ่งเมื่อสเป็คฯนี้หมดอายุ เขาก็ไปหาคนใหม่ได้
คุณค่าของหญิงไม่น่าจะใช่การมีริมฝีปากแดงดุจผลตำลึงสุก ฟันสีขาวประดุจสังข์ หรือการที่คลอดลูกกี่ครั้งยังเต่งตึง
เบญจ กัลยานี น่าจะหมายถึงคนที่ยืนหยัดเคียงคู่สามี ไม่ใช่เดินตาม เป็นเพื่อนไม่ใช่ทาส เอาใจแต่ไม่ตามใจ อ่อนน้อมแต่ไม่อ่อนแอ เพราะสเป็คฯทางกายหมดอายุเร็วกว่าสเป็คฯทางใจนัก
(พิมพครั้งแรก เปรียว 2548)
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเว็ปไซต์ www.kasetsomboon.org |
ข้อตกลงก่อนชมเว็ปไซต์ |
บทความบันทึกการเดินทางของเว็ปมาสเตอร์ นายตัวดี ท.ทิวเทือกเขา คลิ๊กอ่านได้เลยครับ มีทั้งหมดตอนนี้ 14 ตอน |