การเดินทางที่ยาวไกลยังไม่สิ้นสุด ตอนที่ 7แก้ไขล่าสุด ใน วันพุธที่ 31 ตุลาคม 2012 เวลา 10:16 เขียนโดย นายตัวดี ท.ทิวเทือกเขา วันเสาร์ที่ 18 กันยายน 2010 เวลา 00:45
อีกความ ทรงจำหนึ่งที่เป็นความทรงจำและอยู่ในความรู้สึกตลอดเวลานั่นก็คือ การละเล่น การเป็นอยู่ที่สนุกสนานในวัยเด็ก ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ การเป็นนักผจญภัยต่างๆนานา และความทรงจำของผมที่ชอบเล่นในสมัยเด็กอีกอย่างหนึ่งคือ การชอบสร้างกระท่อม สร้างอุโมงค์ ทั้งบนต้นไม้ บนดิน และการขุดลึกลงไปในพื้นดินแล้วใช้ไม้มาทับทำทางเข้าไปข้างใน จำได้ว่า เมื่อสมัยตอนเป็นเด็กรอบบริเวณหมู่บ้านยังเป็นป่าไร่ ป่าไม้เล็กๆ ซึ่งจะมีต้นหญ้าประเภทหนึ่งที่ทางเหนือเขาเรียกว่า หญ้าแมงวาย ส่วนคนทางภาคกลางจะเรียกว่า หญ้าสาบเสือ ซึ่งหญ้าตัวนี้มีสรรพคุณทางยาด้วย เวลาเกิดแผลเลือดออกไหลไม่หยุดให้เอาใบมันมาขยี้หรือตำ แล้วบีบเอามาใส่แผล จำทำให้แผลเลือดหยุดไหลและแห้งไว และยังมีต้นไม้อีกอย่างที่เกิดขึ้นบริเวณเดียวกันนั้นก็คือต้นเป้า ซึ่งมีสรรพคุณทางยามากมายเหมือนกัน ยางของมันห้ามเลือดได้ดียิ่งนัก และยังมีสรรพคุณต่อผู้หญิงหลังคลอดลูกอีก โดยการนำมาต้มน้ำให้ดื่มทำให้แผลที่เกิดจากการคลอดลูกแห้งไวขึ้น เมื่อลักษณะบริเวณรอบหมู่บ้านเป็นลักษณะเช่นนี้ จึงเป็นที่ถูกอกถูกใจพวกเด็กๆสมัยนั้นเป็นอย่างยิ่ง เพราะเมื่อวันหยุดเสาร์อาทิตย์ หรือแม้แต่ตอนปิดเทอมเมื่อไหร่ จะต้องพากันไปเล่นซ่อนหา บ้านผมเรียกว่า “การเล่นลับลี้” และมีกิจกรรมหลายอย่างที่พวกเราชอบทำกัน ส่วนพวกเด็กๆผู้ชาย ก็มักจะพากันสร้างอุโมงค์ สร้างกระท่อม โดยใช้หญ้าแมงวายทำ บางทีก็ตัดทั้งต้น บางทีก็มุดเข้าไปทำเป็นทางเดิน และจะพยายามทำให้ลึกเข้าไปในป่าหญ้าวายมากที่สุด แล้วจะเป็นการรู้กันเองในหมู่เด็กๆวว่า เป็นกระท่อมของใคร พวกเรานิยมเอาผลหมากรากไม้ กับข้าวไปทานกันในกระท่อมของแต่ละคน บางทีสร้างไกลเข้าไปลึกมาก แม้แต่ผู้สร้างเองยังหลงทางก็ยังมี นึกถึงแล้วก็ตลกดีเหมือนกัน ผมเองก็ไม่ต่างกับเพื่อนๆสมัยเดียวกัน และเป็นความชอบพิเศษซะด้วยสิ ชอบสร้างกระท่อมไว้หลายที่มาก ที่จำได้ เช่น หลังสวนครูใหญ่ อาจารย์อำนวย จันทิมา ซึ่งท่านได้มาซื้อสวนของชาวบ้านแล้วปลูกลำไยไว้เยอะมาก และที่ป่าหญ้าวายไปทางหลังวัดเกษตรสมบูรณ์ในปัจจุบัน แต่ไกลจากตัววัดมาก เพราะเมื่อก่อนมันจะมีสองเส้นทางเพื่อเดินทางไปบ้านห้วยสา ซึ่งเป็นทางล้อเกวียน ทางแลกคือ ผ่านไปทางหน้าบ้านลุงเสริฐ ป้าฟอง ณ ปัจจุบัน ส่วนทางที่สอง ก็คือ ผ่านทางหน้าวัดเกษตรสมบูรณ์ แต่ทุกวันนี้ไม่เหลือสภาพให้เห็นแล้ว เพราะความเจริญเข้ามาแทนที่กันหมดแล้ว และที่ที่ผมสร้างกระท่อมไว้อย่างเป็นหลักเป็นแหล่งก็คือ ที่สวนพ่ออุ้ยสม แม่อุ้ยขันธ์ ซึ่งปัจจุบันเป็นสวนลำไยของนายฮาย สมประเสริฐ และพ่อหนานจู แม่ศรี สมประเสริฐ ไปแล้ว ส่วนแรงจูงใจ ที่ทำให้เลือกสร้าง ณ ที่ตรงนี้นั้นมีหลายอย่าง อย่างแรกก็คือ ตอนสมัยเป็นเด็ก ผมชอบออกหาดูรูหนู รูตุ่น เพื่อจะได้ใส่กับดัก เมื่อเดินหาตามป่ามันสำปะหลังของชาวบ้าน ก็เห็นมีทางหนูเดินเยอะ ก็เลยเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ ในหัวสมองคิดว่า น่าจะสร้างกระท่อมไว้นอนเล่นที่นี่สักแห่ง ก็เลยตัดสินใจร่วมกันสร้างกับเพื่อนผม นั่นก็คือ หนานปั๋น โดยการช่วยกันตัดไม้ไผ่ ไม้เล็กมาทำโครงสร้างและใช้ต้นมันสำปะหลังช่วย ใช้หญ้าแมงวายมาล้อมรอบให้เกิดความมืด โดยได้สร้างแข่งกันกับหนานปั๋น ซึ่งพวกเราก็สร้างกันแบบเป็นล่ำเป็นสัน ใช้เวลาสร้างอยู่หลายอาทิตย์เหมือนกันกว่าจะเสร็จ เราก็จะไปหาผ้าห่มเก่าๆ หมอนเก่าๆ มาไว้ที่กระท่อม บางคืน ก็ไปนอนเล่น ยิ่งคืนเดือนเพ็ญ เราจะนิยมไปกันมาก เพราะแสงสว่างของดวงจันทร์ทำให้เดินง่าย และชอบนอนดูดวงจันทร์กัน คืนไหนที่เดือนมืด เราก็จะเอาไฟสาย หม้อแบตเตอรี่ ไปไจ หรือ ไปสำรวจกับดักหนูของเราอยู่เป็นประจำ
แรงจูงใจที่ทำให้ผมกับหนานปั๋น ได้แข่งกันสร้างกระท่อม ก็เนื่องด้วยสาเหตุอีกประการหนึ่ง ตอนแรกคิดว่าจะไม่เล่าแล้ว เพราะมันเป็นเรื่องที่น่าอาย และเป็นความรู้สึกแบบเด็กๆ แต่เพื่อความทรงจำและความรู้สึกที่ดีแล้ว ผมก็จะเล่า เพราะมันก็คือเรื่องที่เป็นอดีตไปแล้ว ไม่สามารถย้อนคืนกลับมาได้อีกแล้ว คือ ผมกับหนานปั๋น พากันไปแอบชอบผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่บอกแล้วกันว่าเป็นใคร มันเป็นความรู้สึกแบบเด็กไร้เดียงสาจริงๆ เธอเป็นรุ่นน้องของเรา เป็นคนหมู่บ้านเดียวกันนั่นแหล่ะ ปัจจุบันเธอได้แต่งงานกับคนที่เธอเลือกไปแล้วหล่ะ แต่ความรู้สึกของผมที่มีต่อเธอคนนั้น ผมว่า ณ ปัจจุบัน ความรู้สึกดีดีต่อเธอคนนั้นยังมีอยู่ให้เสมอมา ยังเป็นห่วงและคอยดูความเคลื่อนไหวของเธออยู่ห่างๆ เรื่องมันมีอยู่ว่า ผมกับเพื่อนผม ได้ตกลงที่จะแข่งกันสร้างกระท่อม เพื่อให้เธอคนนั้นมาตัดสินว่าของใครจะสวยกว่า เพราะโดยปกติเราก็มักจะเถียงกันแบบเด็กๆว่า ใครจะจีบเธอได้ จะทำวิธีการอย่างไร นึกถึงแล้วนั่งหัวเราะตัวเองตลอดเวลา หลังจากสร้างเสร็จแล้ว เราก็ได้พากันไปชักชวนเธอให้ไปดูกระท่อมของเรา เพื่อที่จะให้เธอตัดสิน เพื่อที่ผมและเพื่อนจะได้รู้ว่า เธอชอบใครมากกว่ากัน สุดท้ายท้ายที่สุด เธอก็ไม่เคยยอมไป และคงไม่มีความคิดที่จะไปด้วยแหล่ะ ยังนึกขำอยู่ บางครั้งเอาขนม เอาหนังยาง แบ่งให้เธอและชักชวนไป เธอยังไม่ไปเลย จวบจนกระทั่งพวกเราเรียนจบชั้นประถม ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไป อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เราห่างกัน นั่นก็คือผมเริ่มเข้าไปสู่ความเป็นเด็กวัด |
||||
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเว็ปไซต์ www.kasetsomboon.org |
ข้อตกลงก่อนชมเว็ปไซต์ |
บทความบันทึกการเดินทางของเว็ปมาสเตอร์ นายตัวดี ท.ทิวเทือกเขา คลิ๊กอ่านได้เลยครับ มีทั้งหมดตอนนี้ 14 ตอน |