พระราชดำรัส พระราชทานเมื่อ วันที่ 4 ธันวาคม 2540 คู่มือการดำเนินชีวิตสำหรับประชาชน ปี 2541 และ ทฤษฎีใหม่ถ้าสามารถที่จะเปลี่ยนให้กลับเป็นเศรษฐกิจแบบพอเพียง ไม่ต้องทั้งหมด แม้จะไม่ถึงครึ่งอาจจะเศษหนึ่งส่วนสี่ก็จะสามารถที่จะอยู่ได้ การแก้ไขจะต้องใช้เวลาไม่ใช่ง่ายๆโดยมาก คนก็ใจร้อนเพราะเดือดร้อนแต่ว่า ถ้าทำตั้งแต่เดี๋ยวนี้ก็จะสามารถที่จะแก้ไขไต้ พระราชดำรัสพระราชทานเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2540ผู้จัดพิมพ์สำนักงานจัดการทรัพย์ลินส่วนพระองค์สำนักงานทรัพย์สินส่วน พระมหากษัตริย์บริษัท มงคลชัยพัฒนา จำกัดบริษัท บางจากปิโตรเลี่ยม จำกัด (มหาชน)จำนวน500,000 เล่ม (มกรา คม 2541 ) ขอขอบใจที่ท่านทั้งหลายมาให้พร ซึ่งทำให้สามารถที่จะผ่านหนึ่งปีโดยสวัสดิภาพ เมื่อปีที่แล้วพูดถึงลิง ทำไมพูดถึงลิง เพราะว่าปีที่แล้วได้บอกว่ามีโครงการแก้มลิง โครงการแก้มลิงได้พูดมานับว่าหลายปีแล้ว และเข้าใจว่าเดี๋ยวนี้ที่ได้ทำกิจการแก้มลิงนี้ก็ได้ผลพอสมควรแล้ว ปีนี้กรุงเทพฯ น้ำไม่ท่วม แต่ว่าได้ใช้โครงการนี้ในที่ที่น้ำท่วมและเกิดได้ผล เมื่อสองเดือนมีน้ำท่วมหนักในประเทศในหลายจังหวัด แต่ที่ดูรุนแรงที่สุดคือที่จังหวัดชุมพร โดยที่ยังไม่ถึงเวลาที่จะมีพายุไต้ฝ่นและโซนร้อนมา ฝนลงจนทำให้น้ำท่วมเมืองชุมพรมีความเสียหายเป็นจำนวนมหาศาล ทำให้คิดถึงว่าน่าจะไปดูว่าทำไมเป็นอย่างนั้นฝนตกมาและน้ำท่วมในเมีอง เขาว่าบางแห่งก็สองเมตรทำให้มีความเสียหายมากต่อทรัพย์สินของประชาชนและแม้ แต่สิ่งของทางราชการ เช่น ที่โรงพยาบาลเครื่องเอกซเรย์ถูกน้ำท่วมเสียหายไป ฉะนั้น ถ้าจะลงทุนเพื่อที่จะป้องกันมิให้น้ำท่วมรุนแรงอย่างนั้นก็ควรหาวิธี ได้ส่งคนไปถ่ายรูปทางบกทางอากาศ และเราก็ดูแผนที่ เห็นว่ามีที่แห่งหนึ่งที่ควรทำเป็นแก้มลิงได้โดยฉรรมชาติ คือมีหนองใหญ่หนองใหญ่นั้นเป็นที่กว้างใหญ่ตามชื่อ แต่ว่าก็ไม่ใหญ่พอ เพราะว่ามีการบุกรุกเข้าไปและตื้นเขิน ที่สำคัญมีคลองที่อยู่ใกล้หนองใหญ่นั้น แต่คลองนั้นยังตัน คือยังไม่ได้ขดให้ตลอด เหลือระยะอีกกิโลเมตรครึ่งเศษๆ น้ำที่จะลงในคลองนี้เพี่อที่จะระบายออกทะเลมิให้หันวกมาท่วมเมือง ลงทะเลยังไม่ได้ เลยถามว่าโครงการเขาจะขุดคลองนี้เสร็จเมื่อไรเขาบอกว่ามีงบประมาณแล้วแต่ยัง ไม่มา และว่าจะทำเสร็จในปีหน้า ปี 2541 เลยนึกว่าจะต้องหาวิธีที่จะใช้ประโยชน์จากคลอง ซึ่งได้ลงทุนมากให้ได้ประโยชน์ในฤดูกาลที่จะมีพายุเข้ามา เลยบอกเขาว่า จะขอสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ทั้งกรมชลประทาน ทั้งฝ่ายจังหวัด และมีบริษัทได้รับมอบหมายให้ทำ ให้เขารีบขุดและทำโครงการให้เสร็จภายในเดือนหนึ่ง แทนที่จะเป็นปีหนึ่งจะกลายเป็นเดือนหนึ่ง ได้รับรองเขาว่าถ้าต้องการการสนับสนุนจะให้การสนับสนุน งานจึงเริ่มโดยทำการขุดและทำเป็นท่อ มีประตูน้ำที่จะทะลุออกไปในหนองใหญ่เพื่อที่จะระบายน้ำลงคลอง บอกเขาว่าให้เวลาเดือนหนึ่ง เขาก็สั่นหัวว่างานเช่นนี้ต้องใช้เวลา เลยบอกกับเขาว่าขอสนับสนุนด้วยเงินที่ได้ส่วนหนึ่งของมูลนิธิราช ประชานุเคราะห์ เพื่ออุดหนุนให้สร้างประตูน้ำ ใส่ท่อและมีประตูน้ำจากหนองใหญ่ลงคลอง ส่วนการขุดคลองให้สำเร็จนั้นทางมูลนิธิชัยพัฒนาได้สนับสนุนเงิน 18 ล้าน ซึ่งทางราชการได้มอบเงินตามงบประมาณ ได้เมื่อไรก็ขอคืนแต่ไม่ทราบว่าทางราชการจะสนับสนุนเงินนี้หรือไม่แต่ไม่ เป็นไร มูลนิธิฯ ก็ยอมที่จะเสียประโยชน์ไปบ้างชัยชนะ ชัยพัฒนา ทำอย่างนี้เพราะเห็นว่าการลงทุนเพื่อให้มีผลิตผลมากขึ้น ข้อหนึ่ง การลงทุนเพื่อให้ไม่ต้องเสียเงินอีกข้อหนึ่ง เป็นสิ่งทื่คุ้ม ถ้าเราไม่ทำ เชื่อว่าจะมีน้ำท่วม ทั้งที ทำการเพาะปลูก สถานที่ราชการ หรือเอกชนต้องเสียหาย ต้องเสียเงินมากกว่านั้นมาก เสียเงินค่าส่งเสริม ค่าสงเคราะห์ผู้ที่เสียหาย ซึ่งถ้าไม่มีความเสียหายก็ไม่ต้องเสียเงิน ประชาชนได้ทำมาหากินอย่างปกติ ผลของงานของเขาก็จะเป็นรายได้ นอกจากรายได้ก็เป็นความสะดวก เช่นเครื่องเอกซเรย์ที่ได้กล่าวถึงก็ได้บริการประชาชนที่เจ็บป่วยได้อย่าง ดี ฉะนั้น การที่ลงทุนในเดือนนั้น 18 ล้านกว่าก็นึกว่าคุ้ม เป็นการประหยัดเงินของประชาชน เป็นการประหยัดเงินของราชการ งานเช่นนี้จำเป็นที่จะต้องใช้ทรัพย์เข้าไป สำหรับประตูน้ำนั้นก็ได้ผล เพราะว่าเมื่อพายุลินดาเข้า ทางกรมอุตุนิยมฯ ได้แจ้งว่าจะเข้าแถวชุมพร แต่ความจริงนึกว่าจะเลยชุมพรขึ้นมาถึงประจวบคีรีขันธ์และเพชรบุรี เช่นนั้นก็จะทำให้ชุมพรไม่โดนกำลังแรงที่สุดของพายุ แต่โดยที่คลอง คือลำน้ำที่ผ่านเมืองชมพร มีต้นน้ำข นไปถึงประจวบคีรีขันธ์ เข้าใจว่าน้ำจะลงมามาก ถึงเวลาพายุลินดาเข้า ฝนก็ลงตลอดแถว ตั้งแต่เหนือของชุมพรไปถึงเพชรบุรี น้ำก็จะท่วม แต่ว่าโดยที่ได้เอาน้ำออกจากหนองใหญ่ลงคลองที่ขุดทะลุไปได้แล้วหนองใหญ่จึง รับน้ำที่ลงมาลงทะเลได้ตามหน้าที่ของหนองใหญ่ใน ฐานะเป็นแก้มลิง ลงท้ายชุมพร ตัวเมืองชุมพร และชนบทข้าง ๆ ชุมพร น้ำจึงไม่ท่วมแม้จะมีพายุมาอย่างหนัก จึงเป็นชัยชนะที่ใหญ่หลวงของมูลนิธิชัยพัฒนามูลนิธิชัยพัฒนาก็มีผลงานสมชื่อ นอกจากนั้นก็มีผลงานของมูลนิฉิราชประชานุเคราะห์ ซึ่งหมายถึงว่าพระราชากับประชาชนอนุเคราะห์ซึ่งกันและกัน เมื่อเป็นผลอย่างนี้ ก็มีประชาชนชาวชมพรได้บริจาคเงินเพื่อสนับสนุนโครงการ ตามปกติชาวชุมพรก็ไม่ค่อยแยแสกับการบริจาคนัก แต่เขาก็บริจาคเงินเป็นแสน ฉะนั้น การที่ปีที่แล้ว สองเดือนที่แล้ว มีเหตุการณ์น้ำท่วมและสามารถทำให้น้ำท่วมนั้นบรรเทาความเดีอดร้อนก็เป็นการ ดี ที่เมืองอื่น จังหวัดอื่น ก็เข้าใจว่ามีทางที่จะทำเช่นนี้ โดยมีการลงทุนทีjจะเป็นผลให้ประหยัดการสงเคราะห์ ประหยัดความเสียหาย เช่น พืชผลจะจมน้ำตาย เมื่อพืชผลจมน้ำตายแล้วทางราชการก็ต้องส่งเสริมสนับสนุนเมล็ดพันฐ์หรือส่ง เสริมให้ประชาชนมีอยู่มีกินได้ ฉะนั้นให้เห็นว่าการลงทุนนี้คุ้มค่าวิกฤต อะไรที่ควรทำ อะไรที่ควรเว้น ในระยะนี้ที่นายกฯ บอกว่าเป็นระยะวิกฤตก็ต้องพิจารณาอยู่เสมอว่า “อะไรที่ควรจะทำ อะไรที่ควรจะเว้น” ที่ท่านเห็นอยู่บนเวทีนี้คงแปลกใจ ทำไมจะมาตี “กลองยาว” หรืออย่างไร แต่ว่าข้อสำคัญหีบที่ใส่กลองยาวนี้เห็นได้ชัดว่าเขียนว่า “เมดอินไทยแลนด์ ” เมดอินไทยแลนด์นี่จะเป็นประโยชน์ ถ้าเรามาใช้ของไทย ซื้อของไทย เที่ยวเมีองไทย กินข้าวไทยอันนี้จะได้ประโยชน์ แต่ว่าก็ไม่แก้ปัญหา ปัญหามีอยู่ว่า เมื่อผู้ที่ทำกลองนี้เขาเป็นบริษัท เป็นร้านที่นำเข้าสินค้าที่เขาขาย เขาบอกแย่ เพราะเขานำเข้ามาก็ต้องเสียเงินแพง และต้องขายในราคาเดิมที่มีการตกลงว่าจะขาย เขาบอกขาดทุน แต่เขามีความคิดอยู่เขาสามารถที่จะผลิตกลองนี้และส่งนอก ส่งไปที่อเมริกาส่วนหนึ่ง ส่งไปที่ยุโรปส่วนหนึ่ง และเขาทำงานหนัก ก็เพิ่งได้ส่งไป หมายความว่า เขาถัวกับที่เขาสั่งเข้า เขาถัวไปก็ยังพอไปได้ ถ้ากลองนี้เป็นที่นิยมมากก็สามารถที่จะมีกำไรและประเทศชาติก็จะมีกำไรไป ด้วย หมายความว่าการสั่งของจากต่างประเทศมีความจำเป็นบ้างในบางกรณี แต่ก็สามารถที่จะส่งออกนอกซื่งผลิตผลที่ทำในเมืองไทย ไม้ที่ใช้ก็เป็นไม้ที่มีในเมืองไทยคือเป็นไม้ที่โดยมากก็ไม่ค่อยได้ใช้ ไม่ใช่ไม้ต้องห้ามอย่างที่เขาห้ามตัดป่าไม้ ไม่ใช่ไม้ที่เป็นป่าไม้ เป็นไม้ยางพารา ไม้ยางพาราที่ต้องเปลี่ยนเพื่อให้มีผลผลิตยางให้ดี เขาก็เปลี่ยน เขาก็ตัดยางเก่าเอามาโดยมากก็ไม่ได้ใช้มากนัก มาตอนหลังเขาใช้ทำเครื่องเรือน แต่สำหรับในกรณีนี้เขาลงไปภาคใต้ไปซื้อไม้ยางพารามาด้วยตนเองแล้วมาทำกลอง นี้ มีกลองแบบกลองยาวและมีแบบกลองเล็ก ๆ ใช้ไม้ในเมืองไทย และที่ขึงหนังบนกล่องก็เป็นสิ่งที่ผลิตในเมืองไทยเหมือนกัน เพราะฉะนั้นสามารถทำให้มีการส่งออกสิ่งของที่ทำด้วยวัตถุดิบในเมืองไทยและทำ ด้วยแรงงานของคนไทย อันนี้เป็นการแก้ไขสถานการณ์วิกฤตอย่างดี เป็นของเอกชน เขาทำเอง แต่ก็ต้องเหน็ดเหนื่อย เขาบอกเหนื่อยมากจะเป็นโรคประสาท เพราะว่าทำไม่ทันที่จะส่ง แต่เมื่อส่งแล้วเขาก็มาพบและมามอบผลิตผลของเขา และบอกว่าสบายใจขึ้น อันนี้เป็นวิธีแก้ไขที่เห็นเป็นประจักษ์ว่าทำได้ แต่ต้องมีความเพียร ต้องมีความอดทน ดังนี้ทำให้ได้คิดว่าทำไมวิกฤตการณ์เกิดขึ้นได้ เราเป็นเมืองอุดมสมบูรฐ์และเราได้ชื่อว่ากำลังก้าวหน้าไปสู่เมืองที่เป็นมหา อำนาจทางการค้า ทำไมเกิดวิกฤตการณ์ต้นเหตุของวิกฤตการณ์ปัจจุบัน ความจริงวิกฤตการณ์นี้เห็นมาแล้วแต่ไม่รู้ตัวมา 40 กว่าปี เมื่อ 40 กว่าปี มีผู้หนึ่งเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยมาขอเงิน ที่จริงเคยได้ให้เงินเขาเล็ก ๆ น้อย ๆ เขาบอกไม่พอ เขาก็ขอยืมเงิน ขอกู้เงินก็บอกเอ้าให้ แต่ขอให้เขาทำบัญชี บัญชีรายรับ บัญชีรายจ่าย รายรับคือเงินเดือนของเขา และรายรับที่อุดหนุนเข้า ส่วนรายจ่ายก็เป็นของที่ใช้ในครอบครัว แต่มีสิ่งหนึ่งที่ครั้งนั้นไม่เข้าใจ ไม่เคยเห็น ไม่เคยทราบคีอมีรายการหนึ่งบอกว่า “ค่าแชร์ “เล้วอีกตอนหนึ่งก็มีค่าแชร์อีก ก็ถามเขาว่า “แชร์ “อือะไร เขาก็อฉิบายว่าเป็นเงินที่จ่ายให้เจ้ามือทุกเดือนและเมื่อเดือดร้อนก็ขอ ประมูลแชร์ได้ แต่ประมูลนี้หมายความว่า สมมติแชร์ 100 บาท เขาจะได้รับคล้าย ๆ เป็นเงินกู้ เงินควรจะเป็นเงิน 1,200 บาทในปีหนึ่ง ก็ควรจะดี แต่ว่าเขาไม่ได้ ๆ 200 บาท เขาได้800 บาท หรือ 700 บาท แล้วแต่ประมูลได้ แล้วคนที่มีเงิน เขาไม่ประมูลเขาทิ้งไว้ในแชร์นั้น พอถึงเวลาเขาก็ได้กลับคืนเงินมาเต็มเม็ดเต็มหน่วย อย่างนี้ถามเขาว่าสามารถจะหมุนเงินนี้ได้หรือเปล่า ถามว่าทำไมเเชร์แล้วยังซ้ำแชร์อีก เขาบอกว่าสำหรับจ่ายแชร์เดือนนั้น ต้องทำแชร์สัปดาห์ 7 วันนี้เขาเปียแชร์มาเพี่อไปใช้ค่าแชร์เดือน เขานึกว่าเขาฉลาดและความจริงแชร์นี้ไม่ใช่เฉพาะคนนี้ทำ แต่ทั่วไปทุกแห่งทั้งราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม ก็มี ทุกบริษัททุกส่วน แม้เอกชนก็มีแชร์ เลยบอกให้เขาเลิกแชร์และให้ทำบัญชีมา ทีหลังเขาทำบัญชีมา เขาไม่ขาดทุนแล้ว เขาสามารถที่จะมีเงินพอใช้ เพราะว่าบอกเขาว่าเรามีเงินเดือนเท่าไร จะต้องใช้ภายในเงินเดือนของเราเพราะการทำแซร์เท่ากับเป็นการกู้เงิน กู้เงินนำมาใช้ในสิ่งที่ไม่มีรายได้ อันนี้เป็นข้อสำคัญ เพราะว่าถ้ากู้เงินและทำให้มีรายไดกึเท่ากับจะใซ้หนี้ใด้ ไม่ต้องติดหนี้ ไม่ต้องเดือดร้อน ไม่ต้องเสียเกียรติ มีอีกรายหนึ่งในระยะนั้นเมื่อ 40 ปีมาแล้ว เขาขอกู้เงิน 30,000 บาท เอาไปซื้อเครื่องมือสำหรับตัดเย็บผ้าให้ภรรยาทำร้าน ก็ตกลงให้เขา ในที่สุดเมื่อเขาตั้งร้านแล้ว เขาก็เอาเงินมาคืนทุกเดือนสม่ำเสมอจนกระทั่งหมดจำนวนที่ได้ให้กู้ ด้วยความฉลาด ด้วยความซื่อสัตย์ของเขา รู้ว่ากิจการนี้จะทำให้มีกำไรได้สามารถที่จะคืนเงินมาให้ครบจำนวนที่กู้ ต่อไปเป็นกำไรทั้งนั้น ก็ชมเขาว่าดี คนนี้เขาเป็นคนซื่อสัตย์ ในที่สุดมาเป็นคนที่ช่วยในด้านช่างฝีมือ และได้รับใช้อย่างซื่อสัตย์จนกระทั่งถึงสิ้นอายุ มีอีกรายหนึ่ง เขาเอาหัวเข็มขัดมาให้ เราถามว่าหัวเข็มขัดนี้เอามาให้ทำไม ในที่สุดทราบว่าเขาขอกู้เงิน อันนี้เป็นสิ่งที่ประหลาด เพราะว่าเขาไม่มีเงินใช้ทำไมไปซื้อหัวเข็มขัด ซึ่งก็ราคาไม่ใช่ถูก แล้วเอามาให้ เลยบอกเขาว่าไม่ให้ เพราะทราบดีว่าถ้าให้เขาเขาจะไม่มีเอามาใช้เรา ไอ้เงินจะให้เขาก็มี แต่ว่าถ้าให้เงินเขาแล้วก็ไม่มีผล คือเขาเอาไปใช้อีลุ่ยฉุยแฉกและไม่มีผลอย่างผู้ที่ขอกู้สำหรับทำอาชีพ จะกลายเป็นการทำให้คนเขายิ่งเสียใหญ่ อันนี้เป็นสิ่งที่จะต้องสอน กู้เงิน เงินนั้นจะต้องให้เกิดประโยซน์ มิใช่กู้สำหรับไปเล่นไปทำอะไรที่ไม่เกิดประโยชน์ อันนี้มีอีกคนหนึ่ง เขาจะแต่งงานและขอกู้เงินเลยนึกว่าคนนั้นเขาทำงานมาดี น่าจะให้เหมีอนเป็นรางวัลเขา ก็ให้เงินเขา 10,000 บาท สมัยโน้น 10,000บาทมิใช่น้อย 10,000 บาทเพื่อไปจัดงานแต่งงานของเขา เขาก็ตกลงแต่งงานและยังไม่ได้คืนเงิน ไม่ค่อยถืออะไร เพราะว่าเขาแต่งงาน เขามีความสุขก็ดีไป เขาทำงานได้ดี แต่หารู้ไม่ สักปีสองปีให้หลังเขามาขอเงิน30,000 บาท ก็บอกเอา 30,000 บาทเอาไปทำอะไร เขาบอกว่าเมื่อแต่งงาน เงินเขาไม่พอเลยไปกู้เงินที่อื่นมา แต่ใช้คืนไม่ได้เลยต้องเสียดอกเบี้ย จนกระทั่งใช้คืนเงินต้นหมดแล้ว ต้องใช้ดอกเบี้ยจำนวนนั้นด้วยคือ 30,000 บาท ไม่นับ 10,000 บาทที่เราให้เขาไปแล้ว หมายความว่าไปติดนุงนังหนี้ ไม่สามารถที่จะใช้ ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ได้รู้อีกว่าถ้าไม่ได้อย่างนี้ เขาจะฆ่าตัวตายเพราะว่าไม่มีทางออก เงินเดือนเขาไม่พอจะใช้หนี้ดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ต้องจ่าย ดอกเบี้ย เพราะว่าต้องติดอีกต่อไปทบต้น ก็เห็นว่าครั้งแรกเขายืมเงินสำหรับแต่งงานน่าจะมีความสุขกลับมีความทุกข์ เลยไหนๆ ให้ไป 10,000 บาทแล้วก็ให้ไปให้ครบที่จะไปใช้หนี้ได้ ลงท้ายเขาสามารถที่จะมีชีวิตต่อไปและทำงานได้ แต่คงเป็นบทเรียนที่ดี อันนี้หมายความว่าเขาขอเราก็ให้ เราจะได้ช่วยชีวิตเขา มีอีกรายหนึ่ง เป็นคนข้างนอก มาบอกว่าลูกของเขาเจ็บตา ถ้าไม่ทำอะไรตาจะบอด เราก็สงสารเขาให้เงินเขา 30,000 บาทเหมือนกัน ลงท้ายไม่ทราบว่าลูกเขาได้ไปผ่าตัดตาได้ผลดีอย่างไร แต่วันหนึ่งโผล่มาอีกทีบอกว่ารักษาตาลูกเรียบร้อยแล้ว แต่ขอบ้านอยู่ และบ้านนั้นเขาไปสืบเสร็จว่าบ้านนั้นว่าง แล้วมาขออยู่ฟรีเลยเลิกเลย เพราะเขาควรจะมีฐานะพอสมควรที่จะมีบ้านอยู่ บ้านที่ขอนี้นับว่าเป็นบ้านใหญ่ ถ้าขอบ้าน ถ้าให้บ้าน เขาก็ต้องมาขอค่าใช้จ่ายสำหรับบ้านอีก เมื่อบ้านใหญ่คงมีญาติมีเพื่อนมาอาศัยบ้านก็ต้องเสียเงินอีกเลยบอกว่าไม่ให้ ที่พูดว่าไม่ให้นั้นเรียกว่ามีความเดือดร้อนเหมือนกันที่จะพูดอย่างนั้น จะว่าสงสารก็สงสาร เวลาใครมาขออะไรแล้วไม่สามารถที่จะให้มันก็ไม่ค่อยสบายใจ ในที่สุดก็เงียบไป ข้อเหล่านี้ที่เล่าให้ฟังเพราะว่าเป็นต้นเหตุของวิกฤตการณ์ปัจจุบันทำอย่าง เหมาะสมกับอัตภาพ ขอเล่านิทานอีกเรื่อง คือ ไปทางชลบุรีครั้งหนึ่งก็หลายสิบปีแล้ว มีพ่อค้าคนหนึ่งเขาบอกว่าเขาทำโรงงานสับปะรดกระป๋อง เขาลงทุนเป็นล้าน จำไม่ได้ว่ากี่ล้านเพื่อสร้างโรงงาน การลงทุนมากอย่างนั้นเลยบอกให้เขาทราบว่าไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะว่าเคยทำโรงงานเล็ก ๆ ที่ทางภาคเหนือใช้เงิน 300,000 บาท เพื่อที่จะเอาผลิตผลของชาวบ้านชาวเขามาใส่กระป๋องแล้วขาย ก็ได้ผลเพราะเป็นโรงงานเล็ก ๆ แต่โรงงานเขาเองลงทุนเป็นล้านรู้สึกว่าเสี่ยง เขาบอกว่าต้องทำอย่างนั้น เขาก็ลงทุน ทำไปทำมาสับปะรดที่อำเภอบ้านบึงและที่ชลบุรีก็มีไม่พอต้องไปสั่งสับปะรดมา จากปราณบุรี ต้องขนส่งมาต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก ทำไปทำมาโรงงานก็ล้ม อย่างนี้แสดงให้เห็นว่า ทำโครงการอะไรต้องให้นึกถึงขนาดที่เหมาะสมกับที่เรียกว่าอัตภาพหรือกับสิ่ง แวดล้อมรอบคอบและอย่าตาโต นี่พูดไปพูดมายังคิดถึงอีกรายหนึ่งที่ลำพูน มีการตั้งโรงงานสำหรับแช่แข็งผลผลิตของชาวไร่ ได้ไปเยี่ยมแล้วเขาบ่นว่าคุณภาพของข้าวโพดที่ใช้ใส่กระป๋องสำหรับแช่แข็ง คุณภาพไม่ค่อยดี เขาบอกว่าซื้อในราคาแพงไม่ได้ ตอนนั้นไม่ทราบว่าเขาจะมีอันเป็นอย่างไร ได้บอกเขาว่าน่าจะส่งเสริมให้เกษตรกรที่ปลูกข้าวโพด ให้ได้ข้าวโพดที่คุณภาพดีโรงงานจะเจริญ เขาบอกว่าให้ไม่ได้ เพราะว่าคุณภาพเขาไม่ดี อันนี้เป็นปัญหาโลกแตก ถ้าไม่ให้ราคาดี หรือไม่สนับสนุนเกษตรกร ก็ทำให้ข้าวโพดคุณภาพดีไม่ได้ เรื่องนี้ตอนแรกอาจดูเหมือนขาดทุน ดูจะไม่ได้ประโยชน์ จะไม่ได้คุณภาพ จะได้ข้าวโพดทีฟันหลอซึ่งเขาบอกเขาต้องทิ้ง เพราะว่าเครื่องจักรของเขาต้องมีข้าวโพดที่มีขนาดที่เหมาะสม เมื่อเป็นอย่างนั้นความจริงไม่ได้แช่งเขา แต่นืกในใจว่าโรงงานอยู่ไม่ได้และในที่สุดก็จริง ๆ ก็ล้ม อาคารอะไรต่าง ๆ ยังอยู่เดี๋ยวนี้ แต่ไม่มีใครเป็นเจ้าของ เกะกะอยู่อย่างนั้นฉนั้นการที่จะทำโครงการอะไรจะต้องทำด้วยความรอบคอบและ อย่าตาโตเกินไป คือบางคนเขาเห็นว่าแม้มีโอกาสที่จะทำโครงการอย่างโน้นอย่างนี้ และไม่ได้นึกถึงว่าปัจจัยต่างๆ ไม่ครบปัจจัยคือขนาดของโรงงาน หรือเครื่องจักรที่สามารถจะปฏิบัติได้ แต่ข้อสำคัญที่สุดคือวัตถุดิบ เอาวัตถุดิบมาแล้วไม่สามารถที่จะให้ค่าตอบแทนกับเกษตรกรที่นำวัตถุดิบมาส่ง ยิ่งถ้าวัตถุดิบสำหรับทำในโรงงานนั้นเป็นวัตถุดิบที่ต้องนำเข้าก็ยิ่งยาก เพราะว่าวัตถุดิบที่นำเข้านั้นราคาไม่สม่ำเสมอ บางปีวัตถุดิบนั้นบริบูรณ์ราคาอาจจะต่ำลงมา แต่เวลาจะขายสิ่งของที่ทำที่ผลิตจากโรงงานหรือจากกิจการก็ขายยากเหมือนกัน เพราะมีมากจึงทำให้ราคาตก อันนี้เป็นกฎเกณฑ์ที่ต้องมี ข้อสำคัญ อยากจะพูดถีงว่าถ้าหากว่าเราทำโครงการที่เหมาะสม ขนาดที่เหมาะสม อาจจะไม่ดูหูรหรา แต่ว่าจะไม่ล้ม หรือถ้าล้มถ้ามีอันตรายไปก็ไม่เสียมาก เช่น โรงงานกระป๋องริเริ่มทำที่อำเภอฝางนั้นวันหนึ่งเขาติดต่อมา บอกว่าน้ำท่วม น้ำจากเขาลงมาพัดโรงงานเสียหาย เลยบอกว่าไม่เป็นไร จะสนับสนุนเงินเพิ่มเติม เพราะที่ดินตรงนั้นซื้อแล้ว เครื่องมือเครื่องใช้ก็ไม่เสียหมด ก็สนับสนุนเขาอีก 400,000ก็ตั้งขึ้นมาใหม่ต่อไป ก็ใช้งานได้มีกำไร อันนี้หลายปีมาแล้วเศรษฐกิจแบบพอเพียง มาใหม่ ๆนี้ โครงการต่าง ๆ ก็เกิดขึ้น โรงงานก็เกิดขึ้นมาก จนกระทั่งคนเขานึกว่าประเทศไทยเป็นเสือตัวเล็กๆ และเป็นเสือตัวโตขึ้น เราไปเห่อว่าจะเป็นเสือ ความจริงเคยพูดเสมอในที่ประชุมอย่างนี้ว่าการจะเป็นเสือนั้นมันไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่เราพออยู่พอกิน และมีเศรษ ฐกิจการเป็นอยู่แบบพอมีพอกินแบบพอมีพอกินหมายความว่า อุ้มชูตัวเองได้ให้มีพอเพียงกับตัวเอง อันนี้เคยบอกว่า ความพอเพียงนี้ไม่ได้หมายความว่าทุกครอบครัวจะต้องผลิตอาหารของตัวจะต้องทอ ผ้าใส่ให้ตัวเองสำหรับครอบครัว อย่างนั้นมันเกินไป แต่ว่าในหมู่บ้านหรือในอำเภอจะต้องมีความพอเพียงพอสมควร บางสิ่งบางอย่างที่ผลิตได้มากกว่าความต้องการก็ขายได้ แต่ขายในที]ไม่ห่างไกลเท่าไรไม่ต้องเสียค่าขนส่งมากนัก อย่างนี้นักเศรษฐกิจต่าง ๆ ก็มาบอกว่าล้าสมัยจริง อาจจะล้าสมัย เพราะว่าคนอื่นเขาก็ต้องมีการเศรษฐกิจที่ต้องมีการแลกเปลี่ยน เรียกว่าเป็นเศรษฐกิจการค้า ไม่ใช่เศรษจกิจความพอเพียง รู้สึกไม่หรูหรา แต่เมืองไทยเป็นประเทศที่มีบุญอยู่ว่า การผลิตที่พอเพียงทำได้ อย่างข้าวที่ปลูก เคยสนับสนุนให้ปลูกข้าวให้พอเพียงกับตัวเอง เก็บเอาไว้ในยุ้งเล็ก ๆ แต่ละครอบครัวเก็บและถ้ามีพอก็ขาย แต่คนอื่นกลับบอกว่าไม่สมควรโดยเฉพาะทางภาคอีสาน เขาบอกต้องปลูกข้าวหอมมะลิเพื่อที่จะขาย อันนี้ถูกต้องข้าวหอมมะลิขายได้ดีแต่เมื่อขายแล้วของตัวเองจะบริโภคเองต้อง ซื้อ จะซื้อจากใคร ทุกคนปลูกข้าวหอมมะลิ ในภาคอีสานส่วนมากเขาชอบบริโภคข้าวเหนียว ชึ่งใครจะเป็นคนปลูกข้าวเหนียว เพราะว่าประกาศโฆษณาว่าคนที่ปลูกข้าวเหนียว เป็นคนโง่ อันนี้ที่เป็นสิ่งสำคัญ เลยสนับสนุนบอกว่า ให้เขาปลูกข้าวบริโภคเขาชอบข้าวเหนียวก็ปลูกข้าวเหนียว เขาชอบข้าวอะไรก็ตาม ให้เขาปลูกข้าวอย่างนั้น และเก็บไว้เพื่อใช้บริโภคตลอดปี ถ้ายังมีที่ที่จะทำนาปรังหรือมีที่มากพอสำหรับปลูกข้าว ก็ปลูกข้าวหอมมะลิเพื่อที่จะขายที่พูดอย่างนี้เพราะว่าข้าวที่ปลูกสำหรับ บริโภคไม่ต้องเที่ยวรอบโลก ถ้าข้าวที่ซื้อมาต้องข้ามจังหวัดหรืออาจจะข้ามประเทศมา ค่าขนส่งนั้นก็บวกเข้าไปในราคาข้าว เขาบอกขายข้าวหอมมะลิได้ราคาแพง ซึ่งเป็นความจริงตอนที่ขายผู้บริโภคในต่างประเทศ แต่ต้นทางไม่ได้ค่าตอบแทนมากนักและยังต้องไปชื้อข้าวบริโภค ซึ่งจะแพงกว่า เพราะว่าต้องขนส่งมา ข้อนี้ได้ทราบดี เพราะว่าเมื่อมีภัยธรรมชาติ จะเป็นที่ไหนก็ตาม สมมติว่ามีอยู่ที่เชียงราย ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าออกไปสงเคราะห์และก็ขอข้าวที่จะไปแจกเราก็ซื้อข้าาใน ราคากรุงเทพฯ หมายความว่าข้าวนั้นมาจากเชียงรายเพราะเชียงรายเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ มาจากเชียงราย ขนส่งมาถึงกรุงเทพฯ ซื้อที่กรุงเทพฯ และส่งไปเชียงราย เสียค่าขนส่งเท่าไร แต่แท้จริงไปชื้อที่เชียงรายได้ ซื้อที่กรุงเทพฯ แต่ให้เขาจ่ายที่เชียงรายข้าวนั้นไม่ต้องเดินทาง แต่ว่าราคาเขาเดินทาง คือพ่อค้าเขานำข้าวในนามในเอกสารนำเข้ากรุงเทพฯเขาเอาค่าเดินทางของข้าวจาก เชียงรายเข้ากรุงเทพฯและบวกค่าเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปเชียงราย ลงท้ายต้องเสียเงินราคาข้าวแพง ผู้ที่บริโภคข้าวในภาคเหนือก็ต้องเสียแพงเช่นเดียวกับภาคใต้ ถ้าใกล้หน่อยอย่างนราธิวาสก็ซื้อข้าวจากพัทลุง สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องของเศรษฐกิจแบบค้าขายภาษาฝรั่งเขาเรยก Trade Economy ไม่ใช่แบบพอเพียง ซึ่งฝรั่งเรียก self-sufficienf Economyถ้าเราทำแบบที่ไหนทำได้ คือเศรษฐกิจแบบพอเพียงกับตัวเอง เราก็อยู่ได้ไม่ต้องเดือดร้อน อย่างทุกวันนี้เราเดือดร้อน สำหรับข้าวก็เห็นชัดสำหรับสิ่งอื่นประชาชนก็ต้องใช้ มีสิ่งของจำเป็นที่จะใช้หลายอยางที่เราทำในเมืองไทยและสามารถทจะเป็นสินค้า ส่งนอก ใช้เองด้วย แต่สำหรับส่งนอกนั้นมีพิธีการมากมาย มีทางที่จะผ่านมากมาย ลงท้ายกำไรไม่เหลือ กำไรมันน้อย แต่ถ้าสามารถที่จะติดต่อโดยตรงอย่างกลองนี้เขาติดต่อโดยตรง เขาส่งไปเป็นหีบ ๆ ที่ลงเรือ ที่เรียกว่า container ก็ส่งไปเต็ม containerลงท้ายค่าขนส่งไม่แพงนัก โรงสีแห่งความสุขร่วมกัน ทฤษฎีใหม่ต้องมีผู้สนับสนุน ทดลองและปรับปรุง ทำ “นา-ยก” ให้เป็น “นาสมบูรณ์” แก้ไขดินแร้นแค้น ช่วยไทยพ้นวิกฤต ต้องถอยหลังเพื่อก้าวหน้า ใช้สติปัญญาทำหน้าที่เพื่อส่วนรวม ทฤษฎีใหม่ ทฤษฎีใหม่ ทฤษฎีใหม่ ทฤษฎีใหม่ ทฤษฎีใหม่ |
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเว็ปไซต์ www.kasetsomboon.org |
ข้อตกลงก่อนชมเว็ปไซต์ |
บทความบันทึกการเดินทางของเว็ปมาสเตอร์ นายตัวดี ท.ทิวเทือกเขา คลิ๊กอ่านได้เลยครับ มีทั้งหมดตอนนี้ 14 ตอน |