ศูนย์นาทีก่อนเที่ยงคืนแก้ไขล่าสุด ใน วันพุธที่ 22 กรกฏาคม 2009 เวลา 20:50 เขียนโดย นายตัวดี ท.ทิวเทือกเขา วันพุธที่ 22 กรกฏาคม 2009 เวลา 20:47 วันนี้เข็มนาฬิกาวันสิ้นโลกชี้ที่เลขห้านาทีก่อนเที่ยงคืน นาฬิกาวันสิ้นโลก (Doomsday Clock) เป็นสัญลักษณ์ที่นักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งตั้งขึ้นมานับแต่ปี พ.ศ. 2490 สองปีหลังสิ้นสงครามโลกครั้งที่สองและระเบิดปรมาณูที่เมืองนางซากิ สัญลักษณ์นาฬิกาวันสิ้นโลกปรากฏอยู่บนหน้าปกของ Bulletin of the Atomic Scientists (นิตยสารนักวิทยาศาสตร์ปรมาณู) ของมหาวิทยาลัยชิคาโก ตั้งแต่วันนั้นมา วันนี้ มันถูกปรับให้เดินหน้าสองนาทีไปหยุดที่ห้านาทีก่อนเที่ยงคืน โดยคณะกรรมการ Bulletin of the Atomic Scientists ซึ่งประกอบด้วยนักวิทยาศาตร์ชั้นกะทิของโลก รวมไถึงผู้อุปถัมภ์เช่น อาร์เธอร์ ซี. คลาร์ค และ สตีเฟน ฮอว์กิง นักวิทยาศาสตร์-นักเขียนชั้นนำของโลกระยะห่างของเข็มนาฬิกาจากเวลาเที่ยงคืน หมายถึงความเสี่ยงของโลกจากหายนะแห่งสงครามนิวเคลียร์ นั่นคือ ‘เที่ยงคืน’ ห้วงยามแห่งความมืดมนระหว่างสงครามเย็นในปี 2490 เข็มนาฬิกาชี้ที่เจ็ดนาทีก่อนเที่ยงคืน และเข็มนี้ก็ชี้ขึ้นลงตลอดหลายทศวรรษนี้มันเคยที่ชี้ขีดอันตรายที่สุดคือสอง นาทีก่อนเที่ยงคืนในปี 1953 เมื่ออเมริกาทดลองระเบิดไฮโดรเจนสำเร็จสามนาทีก่อนเที่ยงคืนเมื่อโซเวียต ทดลองระเบิดไฮโดรเจนสำเร็จเจ็ดนาทีก่อนเที่ยงคืน เมื่อฝรั่งเศสและจีนทดลองระเบิดปรมาณูในปี พ.ศ. 2503 และ 2507เก้านาทีก่อนเที่ยงคืน เมื่ออินเดียทดลองระเบิดปรมาณูในปี 2517สิบเจ็ดนาทีก่อนเที่ยงคืนเมื่ออเมริกาและโซเวียตเซ็นสนธิสัญญาลดอาวุธใน ปี 2534 นี่เป็นระยะห่างที่สุดของเข็มนาฬิกาจากเที่ยงคืน แล้วมันก็กระดิกเข้าหาเก้านาทีก่อนเที่ยงคืน เมื่ออินเดียกับปากีสถานทดลองระเบิดปรมาณูในปี 2541และอีกครั้ง ปัญหาสงคราม อาวุธนิวเคลียร์ที่กระจายไปทั่วโลก และการก่อการร้ายที่ลุกลามไปทั่วโลกทำให้เข็มนาฬิกาชี้ไปที่เจ็ดนาทีก่อน เที่ยงคืนมาถึงวันนี้ เข็มนาฬิกาวันสิ้นโลกกระดิกตัวเข้าหาหายนะกว่าเดิม ห้านาทีก่อนเที่ยงคืนนี่เป็นปีที่อิหร่านกับเกาหลีเหนือที่พยายามนำพาชาติ ของตนให้เป็นหนึ่งในชาติที่มีพลานุภาพปรมาณู นี่เป็นครั้งแรกที่คณะกรรมการนำปัจจัยอื่นนอกเหนือจากสงครามมาพิจารณา นั่นคือ ภาวะโลกร้อนที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงบรรยากาศของโลกคณะกรรมการบอกว่า เราก้าวมาถึงห้วงเวลาอันตรายที่สุดนับแต่เหตุการณ์ที่ฮิโรชิมาและนางาซากิ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ขณะที่นักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งเตือนชาวโลกและผู้นำชาติต่างๆ ถึงมหันตภัยเงียบที่เรียกว่า ปฏิกิริยาเรือนกระจก น้อยคนนักจะสนใจ ด้วยเห็นว่ามันห่างไกตัว และ “คิดมากไปได้” ผู้นำหลายประเทศหัวเราะและลืมมันเสียทว่าหลักฐานบ่งชัดว่า น้ำแข็งในซีกโลกที่เคยหนาวเหน็บค่อยๆ ละลายหายไปเงียบๆ ผลกระทบอย่างเป็นรูปธรรมที่ชาวโลกเผชิญคืออากาศแปรปรวน ที่ที่ฝนชุ่มก็แล้ง ที่ที่ดินแล้ก็เกิดน้ำท่วม เกิดพายุร้ายแรงบ่อยครั้งขึ้น และร้ายแรงขึ้นสตีเฟน ฮอว์กิง กล่าวว่า “อันตรายของบรรยากาศถูกทำลายร้ายแรงกว่าการก่อการร้าย การก่อการร้ายฆ่าคนในเลขหลักร้อยหรือพัน แต่โลกร้อนฆ่าคนในเลขหลักล้าน”ปรัชญาพุทธสอนว่า กรรมเกิดจากเหตุ ไม่ว่าทำกรรมอะไร ปฏิกิริยาของมันจะย้อนคืนกลับมาเสมอ ในกรณีนี้กรรมอาจตกอยู่ที่ลูกหลานเหลนของเรา เมื่อ 0 นาทีก่อนเที่ยงคืนมาถึเราพูดกันมานานแล้ว การตัดป่า ทำลายต้นน้ำ ทำลายสายน้ำทำให้โลกวิบัติ เราล้วนรู้วิธีแก้ไขปัญหานี้ แต่สำนึกที่ดีไม่พอ ต้องตามมาด้วยการกระทำที่ดี กตัญญูต้องตามมาด้วยกตเวทิตาจึงจะสมบูรณ์กตัญญูต่อแผ่นดินที่เราถือกำเนิด ด้วยการรับรู้ กตเวทิตาด้วยการกระทำ เอาใจเขามาใส่ใจเรา ไม่สร้างหนี้สินให้ลูกหลานเพราะโลกเป็นบ้านเดียวของเรา เป็นบ้านเดียวที่เรามี และเป็นบ้านเดียวของสัตว์ร่วมโลกการคาดการณ์หายนะล่วงหน้าทำให้เรารู้ปัญหา ที่แท้จริง การมีสติทำให้เราแก้ปัญหานั้นได้ การมีน้ำใจทำให้เราสามารถกระทำสิ่งที่ดูเป็นไปไม่ได้ผืนป่าคืนกลับสู่สภาพ สมบูรณ์ได้ โลกรักษาตัวมันเองได้ในระดับหนึ่ง หากให้เวลามันพอเมื่อสำนึกของคนดีขึ้น เข็มนาฬิกาก็สามารถย้อนกลับไปยังอดีตที่สวยงาม
วินทร์ เลียววาริณ |
|
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเว็ปไซต์ www.kasetsomboon.org |
ข้อตกลงก่อนชมเว็ปไซต์ |
บทความบันทึกการเดินทางของเว็ปมาสเตอร์ นายตัวดี ท.ทิวเทือกเขา คลิ๊กอ่านได้เลยครับ มีทั้งหมดตอนนี้ 14 ตอน |