เราต่างก็เท่ากัน เป็นความจริงที่ว่า…คนสองคนที่มาจากต่างที่ต่างทางเมื่อเดินทางมาพบกัน… รักกันย่อมจะมีความแตกต่างกันในเรื่องความคิดและนิสัยใจคอ เพราะต่างฝ่ายก็มีต้นทุนในชีวิตไม่เท่ากันแต่เมื่อทั้งคู่ได้รู้จักมักคุ้น จนเกิดความผูกพันรักใคร่กันแล้ว ทั้งสองฝ่ายก็ควรเรียนรู้ที่จะปรับชีวิตให้ใกล้เคียงกันรวมทั้งหยิบยื่นสิ่ง ต่างๆ ให้กันด้วยหัวใจที่เท่าๆ กันคนรักกัน…ไม่ควรมีอะไรที่แตกต่างกันมากเกินไปไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ พื้นฐานชีวิต…ความคิด…และจิตใจจะได้ไม่มีช่องว่างทางใจระหว่างกัน ไม่เอาเปรียบกันในเรื่องชีวิตความเป็นอยู่และไม่มีเรื่องกดดันจิตใจกันทาง อ้อม แต่ถ้าหากว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องตกอยู่ในฐานะเสียเปรียบ หรือ ด้อยกว่าในทุกๆ เรื่อง ก็อาจจะเกิดความรู้สึกไม่ภาคภูมิในตัวเองรู้สึกว่าตัวเองต้องตกเป็นเบี้ย ล่างของอีกฝ่ายหนึ่งตลอดเวลา”ความเสมอกัน” ระหว่างคนรักกันถือเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องให้ความสนใจไม่แพ้เรื่องอื่นๆ เพราะความเท่ากันหรือใกล้เคียงคือส่วนผสมสำคัญที่จะช่วยให้ความรักเป็นปึก แผ่นและทำให้ความผูกพันแน่นหนา แม้หลายคนอาจจะยึดมั่นว่า…ความรักคือการให้และการเสียสละจะเสียเปรียบก็ ยอม.จะต่ำต้อยกว่าก็ไม่เป็นไรแต่ถึงเวลาจริงๆ …จะมีสักกี่คนที่สามารถเป็นฝ่ายให้อยู่ฝ่ายเดียวจะมีสักกี่คนที่เสียสละ ได้ทุกอย่างจนชั่วชีวิตจะมีสักกี่คนที่ทำได้ทุกอย่างโดยไม่มีข้อแม้ รับประกันได้ว่า…หายากยิ่งกว่าหนวดเต่าเขากระต่ายเพราะข้อเท็จจริงก็ คือ…คนเราต่างก็มีขีดจำกัดของตัวเองแต่ละคนจะกำหนดทุกอย่างไว้ในใจแล้ว ว่า…จะทำอะไร…ทำแค่ไหน…ทำไปทำไม…ทำเพื่ออะไร…ถ้าหากทำไปแล้ว… ไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่หวังไว้ ก็จะเริ่มท้อใจและเบื่อหน่ายและอาจจะล้มเลิกความคิดที่จะเป็นฝ่ายยอมต่อไป ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหากว่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะจะมีใครที่ไหนเล่าที่จะยอมทำตัวเป็นพ่อพระแม่พระ ทำทุกอย่างให้คนรักอย่างถวายหัวโดยไม่นึกถึงตัวเองแม้แต่นิดเดียวถ้าหากจะมี คนอย่างที่ว่านี้อยู่จริง…เขาก็คงเป็นมนุษย์มหัศจรรย์ที่มีอยู่บนโลกนี้ ไม่กี่คนและที่แน่ๆ…คงไม่เหลือมาถึงเราหรอก หากว่าเราอยากมีความรักที่ดี อยากมีความรักที่เสมอภาคกันรักแล้วไม่เสียใจ…รักแล้วไม่เสียเปรียบ…รัก แล้วไม่เสียความรู้สึกเราก็ต้องรู้จักจูนความรักให้เท่ากันด้วยการปรับความ รู้สึกนึกคิดเข้าหากันให้มากที่สุดโดยเริ่มจากเรื่องแรกคือ…เราต้อง…” มองเห็นคุณค่าในตัวคนรักเท่าๆ กันเราจะต้องมองเห็นคุณค่าในตัวของคนที่เรารักว่าเขาคือคนพิเศษของชีวิตคือ คนที่มีความหมายกับเราคือคนที่เราต้องให้เกียรติในทุกๆ เรื่องไม่ใช่มองว่าเขาเป็นจำเลยรักมีหน้าที่รักและรับใช้เราไปตลอดชีวิตคน รักกันก็ควรจะยกย่องและชื่นชมซึ่งกันและกันสร้างความรู้สึกที่ดีๆ ต่อกันอยู่เสมอ ส่วนเรื่องที่สองที่เราควรมีเท่าๆ กันก็คือ…”ความรักความเข้าใจใกล้เคียงกัน”เรื่องนี้ละเลยไม่ได้ทีเดียว คนสองคนจะรักกันโดยไม่ปีนเกลียวก็ต้องมีความรักและความเข้าใจในระดับที่พอๆ กันเพราะความสัมพันธ์คงไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ถ้าฝ่ายหนึ่งมอบความรักให้ อย่างมากมายยินยอมพร้อมใจที่จะเข้าใจทุกอย่างแต่อีกฝ่ายหนึ่ง กลับมีความรักตอบแทนให้เพียงน้อยนิดแถมไม่ยอมเข้าใจอะไรสักอย่าง แต่ถ้าทั้งสองฝ่ายมีความรักและความเข้าใจไม่มากไม่น้อยไปกว่ากันก็จะอยู่ ด้วยกันได้อย่างสบายใจถัดมาคือเรื่องที่สามที่เราควรมีนั่นคือ…”มีโลกความ คิดคล้ายกัน”คนรักกันต้องใช้ชีวิตร่วมกันและคนที่จะใช้ชีวิตด้วยกันก็ควรมี โลกทัศน์คล้ายๆ กันจะได้มีทัศนคติในทิศทางเดียวกันแต่การปรับโลกแห่งความคิดให้เท่ากัน ไม่ได้หมายความว่า…ถ้าคนหนึ่งจบด็อกเตอร์อีกคนหนึ่งจะต้องไปเรียนด็อก เตอร์ด้วย เพียงแต่ว่าทั้งสองฝ่ายควรจะมีความรู้ความคิดเกี่ยวกับเรื่องรอบๆ ตัวและเรื่องของชีวิตในระดับเดียวกัน จะได้คุยกันรู้เรื่องและสื่อสารกันเข้าใจเมื่อทั้งสองฝ่ายคุยกันถูกคอถูกใจ ความคิดความอ่านไปกันได้ดี ความรักก็จะดีวันดีคืนสุดท้ายคือเรื่องที่สี่…เราควรมี…”ความเชื่อเสมอ กัน”ความเชื่อก็เป็นอีกสิ่งหนึ่ง ที่มีผลกับการครองรักเป็นอย่างมากคนเรา-ถ้าเชื่ออะไรไม่เหมือนกันก็อยู่ด้วย กันลำบากถ้าฝ่ายหนึ่งเชื่ออย่างนี้…แต่อีกฝ่ายหนึ่งเชื่ออย่างนั้นคงไม่ แคล้วต้องหาเหตุมาโต้เถียงกันฉะนั้น…คนรักกันควรจะมีความเชื่อและความ ศรัทธาต่อสิ่งต่างๆ คล้ายๆ กันซึ่งความเชื่อที่ว่านี้…รวมหมดทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นความเชื่อด้าน ศาสนา…ลัทธิ…ปรัชญาชีวิต…ฯลฯถ้าหากทั้งคู่มีความเชื่อในแนวทางเดียว กันไม่เชื่อถืออะไรที่ต่างกันคนละขั้ว ก็จะช่วยให้ชีวิตรักสุขดีไม่มีสะดุด หากว่าคนสองคนรักกันอย่างเท่าเทียมกันรักกันด้วยหัวใจที่เท่าๆ กันไม่มีใครรู้สึกเสียเปรียบเสียเชิงไม่มีใครรู้สึกต่ำต้อยด้อยกว่าก็ไม่มี เรื่องอะไรที่จะต้องมาขุ่นข้องหมองใจกันเมื่อไม่มีเรื่องคับข้องใจกันความ รักก็จะสดใสเย็นตาเย็นใจเมื่อไหร่ที่ต่างฝ่ายต่างรู้สึกว่า……”เราต่างก็ เท่ากัน”…เมื่อนั้นความรักก็จะเป็นไปอย่างใจฝันด้วยเพราะเรามีเราเท่าๆ กันเสมอ…
โดย..kolan โก้หลานนายสิบ
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเว็ปไซต์ www.kasetsomboon.org |
ข้อตกลงก่อนชมเว็ปไซต์ |
บทความบันทึกการเดินทางของเว็ปมาสเตอร์ นายตัวดี ท.ทิวเทือกเขา คลิ๊กอ่านได้เลยครับ มีทั้งหมดตอนนี้ 14 ตอน |